แผนการจัดการเรียนรู้ที่5
สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รายวิชา วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว 23103 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง เวลาขึ้น – เวลาตกของดวงจันทร์ เวลา 1คาบ วันที่............เดือน..........................................พ.ศ.......................ครูผู้สอน............................................................ ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิต และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศ
2. ตัวชี้วัดชั้นปี สร้างแบบจำลองที่อธิบายการเกิดข้างขึ้นข้างแรม การเปลี่ยนแปลงเวลาการขึ้นและตกของดวงจันทร์ และการเกิดน้ำขึ้นน้ำลง (ว 3.1 ม. 3/3)
3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. สังเกตและอธิบายการขึ้นตกของดวงจันทร์ได้ (K) 2. มีความสนใจใฝ่รู้หรืออยากรู้อยากเห็น (A) 3. พอใจในประสบการณ์การเรียนรู้ที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ (A) 4. ทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างสร้างสรรค์ (A) 5. สื่อสารและนำความรู้เรื่องเวลาขึ้น–เวลาตกของดวงจันทร์ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ (P)
4. สาระสำคัญ ในแต่ละวัน ดวงจันทร์ขึ้นและตกช้าวันละประมาณ 50 นาที เนื่องจากโลกหมุนรอบตัวเอง 1 รอบใช้เวลาน้อยกว่าดวงจันทร์โคจรรอบโลก 1 รอบ จึงทำให้เห็นดวงจันทร์ขึ้นและตกในเวลาแตกต่างกันทุกวัน
5. สาระการเรียนรู้ ปรากฏการณ์ระหว่างดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์ – ปรากฏการณ์ข้างขึ้นข้างแรม
6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 4. มีจิตวิทยาศาสตร์
7. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
8. ชิ้นงานหรือภาระงาน สังเกตการขึ้นตกของดวงจันทร์
9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1) ครูให้นักเรียนดูรูปหรือสื่อมัลติมีเดียที่แสดงให้เห็นถึงการขึ้นและตกของดวงจันทร์ แล้วให้นักเรียนร่วมกันอภิปราย ดังนี้ – การขึ้นและตกของดวงจันทร์มีลักษณะอย่างไร (แนวคำตอบ ดวงจันทร์จะปรากฏที่ขอบฟ้าทางทิศตะวันออกและลับขอบฟ้าทางทิศตะวันตก) 2) นักเรียนร่วมกันตอบคำถามและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำตอบ เพื่อเชื่อมโยงไปสู่การเรียนรู้เรื่อง เวลาขึ้น – เวลาตกของดวงจันทร์
ขั้นจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้(Inquiry Process) ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
1) ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) (1) ครูถามคำถามนักเรียนเพื่อกระตุ้นความสนใจ เช่น – ในแต่ละคืน ดวงจันทร์ขึ้นจากขอบฟ้าเวลาเดิมหรือไม่ (แนวคำตอบ ไม่ขึ้นจากขอบฟ้าเวลาเดิม) – นักเรียนคิดว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น (แนวคำตอบ เพราะโลกหมุนรอบตัวเอง 1 รอบใช้เวลาน้อยกว่าดวงจันทร์โคจรรอบโลก 1 รอบ) (2) นักเรียนร่วมกันอภิปรายหาคำตอบเกี่ยวกับคำถามตามความคิดเห็นของแต่ละคน
2) ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration) (1)ครูให้นักเรียนศึกษาเรื่องเวลาขึ้น–เวลาตกของดวงอาทิตย์ จากใบความรู้หรือในหนังสือเรียน โดยครูช่วยอธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่า การหมุนรอบตัวเองของโลกทำให้คนบนโลกมองเห็นดวงจันทร์ขึ้นและตก เวลาขึ้นของดวงจันทร์ คือ เมื่อดวงจันทร์ปรากฏที่ขอบฟ้าทางทิศตะวันออก ส่วนเวลาตกของดวงจันทร์ คือ เมื่อดวงจันทร์ลับขอบฟ้าทางทิศตะวันตก โลกหมุนรอบตัวเอง 1 รอบใช้เวลาน้อยกว่าดวงจันทร์โคจรรอบโลก 1 รอบ จึงทำให้เห็นดวงจันทร์ขึ้นและตกแตกต่างกันทุกวัน ช้าวันละประมาณ 50 นาที (2)ครูแบ่งนักเรียนกลุ่มละ 5 – 6 คน ปฏิบัติกิจกรรม สังเกตการขึ้นตกของดวงจันทร์ ตามขั้นตอน ดังนี้ –ให้นักเรียนศึกษาตารางข้อมูลแสดงเวลาขึ้นและตกของดวงจันทร์ในแต่ละวัน ณ จังหวัดกระบี่ ในระหว่างวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ถึง 21มีนาคม พ.ศ. 2562 ดังตาราง
–เขียนกราฟแสดงความสัมพันธ์ของเวลาขึ้นและตกของดวงจันทร์ในแต่ละวัน แล้วนำเสนอหน้าห้องเรียน (3)ครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ได้จากการปฏิบัติกิจกรรม (4)ครูคอยแนะนำช่วยเหลือนักเรียนขณะปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเดินดูรอบๆ ห้องเรียนและเปิดโอกาสให้นักเรียนทุกคนซักถามเมื่อมีปัญหา
3) ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) (1) นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการปฏิบัติกิจกรรมหน้าห้องเรียน (2) ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลจากการปฏิบัติกิจกรรม โดยใช้แนวคำถาม เช่น – คืนข้างขึ้นและคืนข้างแรมมีระยะห่างกันกี่วัน (แนวคำตอบ มีระยะห่างกันประมาณ 15 วัน) – ในแต่ละวันดวงจันทร์ขึ้นและตกที่ตำแหน่งเดิมหรือไม่ อย่างไร (แนวคำตอบ ไม่ โดยดวงจันทร์ขึ้นและตกช้าไปวันละประมาณ 50 นาที) – วันข้างขึ้นและวันข้างแรม ดวงจันทร์ขึ้นและตกในลักษณะใด (แนวคำตอบ วันข้างขึ้นดวงจันทร์จะเริ่มขึ้นทางทิศตะวันออกในเวลากลางวัน และเริ่มตกทางทิศตะวันตกในเวลากลางคืน ส่วนวันข้างแรมดวงจันทร์จะเริ่มขึ้นทางทิศตะวันออกในเวลากลางคืน และเริ่มตกทางทิศตะวันตกในเวลากลางวัน) (3) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลจากการปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า ในแต่ละวัน ดวงจันทร์ขึ้นและตกช้าวันละประมาณ 50 นาที เนื่องจากโลกหมุนรอบตัวเอง 1 รอบใช้เวลาน้อยกว่าดวงจันทร์โคจรรอบโลก 1 รอบ จึงทำให้เห็นดวงจันทร์ขึ้นและตกในเวลาแตกต่างกันทุกวัน
4) ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) นักเรียนค้นคว้าคำศัพท์ภาษาต่างประเทศเกี่ยวกับเวลาขึ้น–เวลาตกของดวงจันทร์จากหนังสือเรียนภาษาต่างประเทศหรืออินเทอร์เน็ต และนำเสนอให้เพื่อนฟัง คัดคำศัพท์พร้อมทั้งคำแปลลงสมุดส่งครู
5) ขั้นประเมิน (Evaluation) (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรม มีจุดใดบ้างที่ยังไม่เข้าใจหรือยังมีข้อสงสัย ถ้ามี ครูช่วยอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนเข้าใจ (2) นักเรียนร่วมกันประเมินการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคใด และได้มีการแก้ไขอย่างไรบ้าง (3) ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติกิจกรรม และการนำความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์ (4) ครูทดสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยการให้ตอบคำถาม เช่น – เวลาขึ้น – เวลาตกของดวงจันทร์ในแต่ละวันแตกต่างกันเพราะอะไร (แนวคำตอบ เพราะเวลาในการหมุนรอบตัวเอง 1รอบของโลกน้อยกว่าเวลาในการโคจรรอบโลกของดวงจันทร์) – ดวงจันทร์สามารถอยู่บนท้องฟ้าในเวลาเดียวกับดวงอาทิตย์ได้หรือไม่ เพราะอะไร (แนวคำตอบ ได้ เพราะดวงจันทร์ขึ้นพ้นขอบฟ้าช้าลงวันละประมาณ 50 นาที จึงมีบางช่วงที่ดวงจันทร์ขึ้นพ้นขอบฟ้าในเวลาเดียวกับดวงอาทิตย์)
ขั้นสรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเกี่ยวกับเวลาขึ้น–เวลาตกของดวงจันทร์ โดยร่วมกันเขียนเป็นแผนที่ความคิดหรือผังมโนทัศน์ 10. สื่อการเรียนรู้ 1. รูปหรือสื่อมัลติมีเดียที่แสดงให้เห็นถึงการขึ้นและตกของดวงจันทร์ 2. ใบกิจกรรม สังเกตการขึ้นตกของดวงจันทร์ 3. หนังสือเรียนภาษาต่างประเทศหรืออินเทอร์เน็ต 4. คู่มือการสอน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 2 5. สื่อการเรียนรู้ PowerPointรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 2 6. แบบฝึกทักษะรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 2 7. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 2
11. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
|
แสดงความคิดเห็น
อภิชาติ แข็งแรง วิทยาศาสตร์และเทคโ... ม.3 เปิดดู 27 ครั้ง |
วิสาน กาฬพันธ์ วิทยาศาสตร์และเทคโ... ม.3 เปิดดู 28 ครั้ง |
นายจีระพันธ์ พรหมกูล วิทยาศาสตร์และเทคโ... ม.3 เปิดดู 30 ครั้ง |
นายจีระพันธ์ พรหมกูล วิทยาศาสตร์และเทคโ... ม.3 เปิดดู 35 ครั้ง |
พรกนก คำศรี วิทยาศาสตร์และเทคโ... ม.3 เปิดดู 40 ครั้ง |
ดารารัตน์ หอมทรัพย์ วิทยาศาสตร์และเทคโ... ม.3 เปิดดู 29 ครั้ง |
นายจีระพันธ์ พรหมกูล วิทยาศาสตร์และเทคโ... ม.3 เปิดดู 52 ครั้ง |
พรกนก คำศรี วิทยาศาสตร์และเทคโ... ม.3 เปิดดู 49 ครั้ง |
นายจีระพันธ์ พรหมกูล วิทยาศาสตร์และเทคโ... ม.3 เปิดดู 26 ครั้ง |
พรกนก คำศรี วิทยาศาสตร์และเทคโ... ม.3 เปิดดู 38 ครั้ง |
พัชริดา อิสาคง วิทยาศาสตร์และเทคโ... ม.3 เปิดดู 28 ครั้ง |
อภิชาติ แข็งแรง วิทยาศาสตร์และเทคโ... ม.3 เปิดดู 36 ครั้ง |
พรกนก คำศรี วิทยาศาสตร์และเทคโ... ม.3 เปิดดู 35 ครั้ง |
พรกนก คำศรี วิทยาศาสตร์และเทคโ... ม.3 เปิดดู 46 ครั้ง |
OBEC PLAY Education Platform | Powered By Spirit Team